เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 52
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเมล็ดพันธุ์แห่งเอเชียและแปซิฟิก (Asian Seed Congress 2009) ระหว่างวันที่ 8-12 พฤศจิกายนนี้ ที่โรงแรมแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของประเทศไทย ที่จะแสดงบทบาทบนเวทีโลกในฐานะเป็นศูนย์กลางหรือ "ฮับ" เมล็ดพันธุ์และครัวโลกที่มีคุณภาพ เนื่องจากประเทศไทยมีลักษณะภูมิประเทศอันอุดมสมบูรณ์ และภูมิอากาศที่หลากหลายเหมาะแก่การผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพ และยังเป็นแหล่งผลิตและส่งออกเมล็ดพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคเอเซียรองจากจีนและญี่ปุ่น โดยในปี 2551 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกเมล็ดพันธุ์ทั้งสิ้น 20,934.41 ตัน คิดเป็นมูลค่าถึง 2,548.48 ล้านบาท ขณะที่ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคมของปีนี้มีการส่งออกไปแล้ว 11,995.21 ตันมูลค่ากว่า 2,227.61 ล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนด 3 ยุทธศาสตร์และนโยบายทางด้านเมล็ดพันธุ์ คือ
ยุทธศาสตร์ที่ 1 ให้มีเมล็ดพันธุ์ดีเพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ สนับสนุนให้มีการวิจัยพืชพันธุ์ใหม่ให้ เกษตรกรได้นำไปใช้เพื่อลดต้นทุนการผลิตและให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณเพียงพอกับความต้องการ
ยุทธศาสตร์ที่ 2 สนับสนุนให้ความสำคัญภาคเอกชนและกลุ่มเกษตรกรมีศักยภาพผลิตพืชพันธุ์ดี เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรรายย่อยที่มีเงินทุนน้อย และสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ในการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสมของกลุ่ม เกษตรกร
ยุทธศาสตร์ที่ 3 สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง(Hub) ด้านผลิตเมล็ดพันธุ์พืชในภาคพื้น เอเชีย เช่น การพัฒนาสายพันธุ์ หรือเป็นเจ้าของสายพันธุ์ภายใต้แบรนด์เนมของไทย การสร้างความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีพัฒนา LAB ตรวจสอบเมล็ดพันธุ์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมาย ประสานเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างกลุ่มต่างๆ ระหว่างการพัฒนาวิชาการเมล็ดพันธุ์ของกระทรวงเกษตร และอุตสาหกรรมการค้าเมล็ดพันธุ์และโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกของกระทรวง พาณิชย์ เป็นต้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 30 ตุลาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=185198