เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 52
นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดร่วมกับผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ เข้าไปตรวจสอบการจำหน่ายปัจจัยการผลิตของสหกรณ์การเกษตรจังหวัดต่างๆ ทั้งสินค้าประเภทปุ๋ย สารเคมี ยาปราบศัตรูพืช และเมล็ดพันธุ์เพื่อการเพาะปลูก รวมทั้งให้เก็บตัวอย่างปุ๋ยที่สหกรณ์นำมาจำหน่ายมาทดสอบคุณภาพ
โดยตัวอย่างปุ๋ยที่นำมาตรวจสอบ จะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ตัวอย่างปุ๋ยที่ได้จะแบ่งเอาไว้เป็น 3 ส่วน ส่วนแรกจะเก็บไว้ที่สหกรณ์ ส่วนที่ 2 ส่งให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสอบโดยใช้ห้องปฏิบัติการ Central Lab และส่วนที่ 3 เก็บไว้ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อวิเคราะห์ดูว่าปุ๋ยของสหกรณ์ที่นำมาจำหน่ายให้แก่สมาชิกนั้นได้มาตรฐาน ตรงตามหลักวิชาการหรือไม่
ทั้งนี้ หากพบว่า สหกรณ์ใดจำหน่ายปุ๋ยที่ไม่มีคุณภาพ เป็นปุ๋ยปลอม หรือจำหน่ายเกินราคาที่เป็นจริง ก็จะแจ้งให้กับสมาชิกและเกษตรกรได้รับทราบและระมัดระวังในการเลือกซื้อ ปัจจัยการผลิต รวมทั้งให้ทุกจังหวัดคุมเข้มสหกรณ์ที่จะดำเนินธุรกิจจำหน่ายปัจจัยการผลิตว่า จะต้องมีหนังสือรับรองผลจากห้อง Lab ของกรมวิชาการเกษตร เพื่อรับประกันว่าปุ๋ยที่จำหน่ายนั้นมีคุณภาพและมีค่ามาตรฐานตรงตามที่กรมวิชาการเกษตรกำหนดเท่านั้น
นายฉกรรจ์กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้ประชุมเพื่อมอบนโยบายให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกรม โดยขอให้เร่งพัฒนาธุรกิจด้านการจำหน่ายปัจจัยการผลิต มุ่งเน้นให้สหกรณ์ภาคการเกษตรคำนึงถึงเรื่องคุณภาพของปัจจัยการผลิต ที่จะนำมาจำหน่ายให้แก่เกษตรกร เนื่องจากปัจจัยการผลิตนั้นถือว่า มีความสำคัญต่อการประกอบอาชีพทางการเกษตรและต้องสร้างความเชื่อมั่นในเรื่อง ของมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจจำหน่ายปัจจัยการผลิตของสหกรณ์ เพื่อให้เกษตรกรไว้วางใจว่า สหกรณ์จะจำหน่ายแต่สินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานและคำนึงถึงผลประโยชน์ที่สมาชิก และเกษตรกรได้รับเป็นหลัก รวมถึงจะพัฒนาให้สหกรณ์การเกษตรเป็นจุดจำหน่ายปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐานแก่เกษตรกรต่อไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 30 ตุลาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=185197