เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 52
นางนิรชา วงษ์จินดา ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ประมง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ตรวจสอบรับรองมาตรฐานฟาร์มและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำอินทรีย์ เผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นอาหารประเภทอินทรีย์หรืออีกนัยหนึ่ง คือ อาหารธรรมชาติ ปลอดสารพิษทั้งหลาย จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของประชาชน ด้วยเหตุนี้กรมประมงจึงผลักดันการเกษตรแบบอินทรีย์ เพื่อให้กระบวนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศมีมาตรฐานการจัดการที่ดี มีการรักษาสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ สามารถพัฒนาคุณภาพผลิตผลและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค เป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าสัตว์น้ำของประเทศสู่สากล อีกทั้ง ยังเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมของผู้ผลิตให้ดีขึ้นด้วย
โดยที่ผ่านมา กรมประมงในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบด้านการวิจัยพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ มีการลงพื้นที่ให้ความรู้จัดฝึกอบรมเกษตรกรให้เข้าใจถึงการทำฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบอินทรีย์ กระทั่งมีเกษตรกรหลายรายประสบความสำเร็จสามารถส่งออกสัตว์น้ำอินทรีย์สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ดีในระดับหนึ่ง
จากความสำเร็จนี้ ทำให้องค์การระหว่างประเทศด้านข่าวสารการตลาดและบริการแนะแนวด้านเทคนิคของสินค้าสัตว์น้ำแห่งเอเชียและแปซิฟิก (INFOFISH) เล็งเห็นถึงศักยภาพของกรมประมง จึงให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาและส่งเสริมงานด้านสัตว์น้ำอินทรีย์ของไทยควบคู่ไปกับประเทศพม่า และมาเลเซีย โดยเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเป็นแนวทางให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงวิธีการ ขั้นตอน และการตลาดของสินค้าอินทรีย์ ซึ่งอาจจะเป็นแรงจูงในให้มีผู้สนใจหันมาทำฟาร์มอินทรีย์เพิ่มขึ้นก็เป็นได้ โดย DR.S. Subasinghe ผู้อำนวยการของ INFOFISH ระบุว่า ประเทศไทยมีการพัฒนางานด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมานาน อีกทั้งยังมีมาตรฐานระดับสากล ฉะนั้นการพัฒนาไปสู่ความเป็นอินทรีย์และขยายไปสู่เกษตรกรอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นคงไม่ใช้เรื่องยาก
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 4 พฤศจิกายน 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=185789