หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน
ส่งเสริมเลี้ยงกบนาในบ่อดินผนังคอนกรีต
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 52
ส่งเสริมเลี้ยงกบนาในบ่อดินผนังคอนกรีต
นายวินัย จั่นทับทิม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า กรมประมงโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดร้อยเอ็ด ได้ทำการทดลองเพาะพันธุ์และอนุบาลกบนาในบ่อดินผนังคอนกรีตเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น จนกระทั่งประสบความสำเร็จสามารถขยายผลวิธีการเพาะเลี้ยงกบนาสู่เกษตรกร สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี โดยการศึกษาการเพาะเลี้ยงกบของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดร้อยเอ็ด นับเป็นวิธีหรือนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะการนำลูกกบวัยอ่อนลงอนุบาลในบ่อดินทำให้ได้ผลผลิตเป็นจำนวนมาก
ซึ่งช่วยให้เกษตรกรประหยัดเวลา แรงงาน และค่าใช้จ่าย สามารถเพาะลูกกบได้ตามมาตรฐาน มีขนาดสม่ำเสมอ อัตราการรอดตายสูง มีต้นทุนต่ำ แถมยังสามารถกำหนดระยะเวลาการเพาะการอนุบาลและนำมาจำหน่ายได้ตรงกับความต้องการของตลาดอีกด้วย สำหรับวิธีการเพาะและอนุบาลกบนาในบ่อดินผนังคอนกรีตจะใช้พ่อแม่พันธุ์กบนาที่เลี้ยงในบ่อซีเมนต์ขนาด 50 ตารางเมตร ขนาดน้ำหนัก 280-300 กรัม เพาะพันธุ์โดยใช้วิธีเลียนแบบธรรมชาติ ปล่อยพ่อแม่พันธุ์ผสมพันธุ์กันเอง 8-10 คู่ หลังวางไข่กบจะฟักออกเป็นตัวภายใน 18-24 ชั่วโมง จากนั้นประมาณ 5 วัน จึงนำลูกอ๊อดลงอนุบาลในบ่อดินผนังคอนกรีตขนาด 800 ตารางเมตร โดยใช้รำผสมกับปลาป่น ในอัตราส่วน 3:1 หว่านลงบนพื้นก้นบ่อเพื่อสร้างอาหารธรรมชาติ หลังจากนั้นเติมน้ำสูงประมาณ 80 เซนติเมตร นำลูกอ๊อดลงบ่อให้อาหาร รำ ปลาป่น อาหารปลาดุกใหญ่ อัตรา 3 :1 :2 ประมาณ 1-2 กิโลกรัม หว่านให้ทั่วบ่อวันละ 4 ครั้ง อนุบาลประมาณ 15-16 วัน
สังเกตพบกบมีขาหน้าและเกาะที่ขอบบ่อ จะใช้อวนตาถี่รวบรวมลูกกบมาพักไว้บนบ่อซีเมนต์ขนาด 50 ตารางเมตร เพื่อเร่งให้ลูกอ๊อดเปลี่ยนเป็นกบเร็วและพร้อม ๆ กัน ใส่ผักบุ้งสุมเป็นกองสูง ระดับน้ำ 5-10 เซนติเมตร เมื่อนำลูกกบมาพักไว้ 3-5 วัน ให้อาหารลูกกบเม็ดเล็กหว่านให้กินรอบบ่อและกองไว้บนแผ่นโฟม ลูกอ๊อดจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นกบทั้งหมดภายใน 5 วัน
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดร้อยเอ็ดยังได้ร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัดร้อยเอ็ด เร่งส่งเสริม และแนะนำวิธีการเลี้ยงตามที่ศูนย์ฯ ได้วิจัยทดลองจนประสบผลสำเร็จสู่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดและผู้ที่ สนใจอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่สนใจการเพาะเลี้ยงกบนาในบ่อคอนกรีต สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเพิ่มได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดร้อยเอ็ด โทรศัพท์ 0-4356- 9116 และสำนักงานประมงจังหวัดร้อยเอ็ด โทรศัพท์ 0-4351-3034 และ 0-4352-2383 ได้ในวันและเวลาราชการ.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=339&contentID=30468
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า