มั่นใจ 'ไก่ไทย' ปลอดภัยไร้ฮอร์โมน
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 52
มั่นใจ 'ไก่ไทย' ปลอดภัยไร้ฮอร์โมน
สมาคมวิทยาศาสตร์สัตว์ปีกโลก สาขาประเทศไทย ได้จัดสัมมนาวิชาการและการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ภายใต้หัวข้อ “กินไก่ กินไข่ ปลอดภัยได้ประโยชน์จริงหรือ” มีกูรูด้านนี้ อาทิ นสพ.ยุคล ลิ้มแหลมทอง นสพ.พรศักดิ์ หิรัญพัทรวงศ์ รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล เข้าร่วมเผยแพร่ความรู้ และให้ทัศนคติเกี่ยวกับการกินไก่กับการกินไข่ ในงานนี้หัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมากเห็นจะเป็นเรื่อง “ไก่ไทย ใช้ฮอร์โมนจริงหรือ?” โดยเฉพาะประเด็นข้อสงสัยเรื่องการใช้ฮอร์โมนเร่งการเติบโตในไก่ ซึ่งเป็นเหตุที่เด็กผู้หญิงสมัยนี้เป็นสาวเร็วกว่าแต่ก่อน เป็นเพราะกินไก่ที่ว่ากันว่ามีฮอร์โมนตกค้าง และได้กลายเป็นกระแสความไม่เชื่อมั่นของผู้บริโภค
ในงานนี้ นสพ.ยุคล ลิ้มแหลมทอง ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า “ความไม่เชื่อมั่นที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากการได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แล้วมีการบอกต่อ ๆ กันไป จนกลายเป็นความเชื่อที่ผิด ๆ ถ้าปล่อยไว้ก็จะยิ่งบานปลาย พวกเราในฐานะนักวิชาการที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มาตลอด จึงต้องออกมาเผยแพร่ความรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจกับสาธารณชน ให้มีทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อไก่ และเป็นการกู้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา” และว่า ภาครัฐได้ออกประกาศห้ามใช้ไปแล้วกว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2529 เพราะฉะนั้น จึงไม่น่าจะมีการนำมาใช้ในบ้านเรา หากมีการใช้ในขณะนี้ถือว่าผิดกฎหมาย โดยนโยบายรัฐได้ให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านอาหาร ต้องเป็นอาหารที่มีความปลอดภัย จึงมีกฎหมายหลายฉบับออกมาควบคุม ซึ่งทางกระทรวงฯได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความรู้ที่ถูกต้อง
ที่สำคัญ ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ของโลก มีตลาดหลักที่สำคัญ คือ สหภาพยุโรป หรืออียู และญี่ปุ่น ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยอาหารอย่างมาก และมีการตรวจสอบการใช้สารหรือฮอร์โมนอย่างเข้มงวด เพราะถือเป็นสารอันตรายที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม ผู้ประกอบการไทยจึงต้องยึดแนวทางการผลิตตามข้อกำหนดทางการค้าของอียู ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยให้ความใส่ใจตลอดกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเลี้ยงจนถึงการแปรรูป เพื่อไม่ให้มีสารอันตรายใด ๆ ปนเปื้อนหรือตกค้างในสินค้าเป็นอันขาด โดยในการส่งออกที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันยังไม่เคยมีการตรวจพบว่าไก่ของประเทศไทยมีการใช้สารดังกล่าว
ทางด้านภาคเอกชน นสพ.พยุงศักดิ์ สมยา นนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า เนื้อไก่ที่ส่งออกและจำหน่ายในประเทศทั้งหมดมีมาตรฐานเดียวกัน และไม่จำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนเร่ง ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานหลักสวัสดิภาพสัตว์และสุขอนามัยสัตว์ที่ดี ทำให้ไก่มีสุขภาพที่ดี ปราศจากโรค และมีการป้องกันโรคที่ดี หรือมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวสร้าง และเสริมให้ไก่เติบโตที่ดี รวมทั้งมีมาตรการตรวจสอบย้อนกลับทั้งระบบจึงเชื่อมั่นได้ว่าสินค้าทั้งหมดมีคุณภาพมาตรฐานที่ดี
“การผลิตไก่ของไทยปราศจากโรค ไม่มีการใช้ยาหรือฮอร์โมนใด ๆ ทั้งสิ้น มีมาตรการคุมการเคลื่อนย้าย การแปรรูปมีการลำเลียงด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย ดำเนินการอย่างนุ่มนวลสอดคล้องกับมาตรฐานอียู” นสพ.พยุงศักดิ์ กล่าว
จากการผลิตที่มีมาตรฐานสากลมารองรับนี้เอง ทำให้ผู้บริโภคโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศคู่ค้า มีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ไก่ของไทย ทำให้มีการคาดการณ์ว่าในปี 2552 ไทยจะสามารถส่งออกไก่แปรรูปได้ใกล้เคียงกับปี 2551 ที่ประมาณ 4 แสนตัน
ประเทศไทยนับว่าเป็นผู้นำในด้านการส่งออกสัตว์ปีก โดยเฉพาะสินค้าแปรรูปและผลิตภัณฑ์ไก่ต้มสุก การประชุมครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีของไทยที่แสดงให้นานาชาติได้เห็นถึง ศักยภาพในด้านเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ปีก ซึ่งได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยสูง
ความยอมรับของนานาประเทศต่อผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปของไทย โดยเฉพาะจากประเทศที่เข้มงวดด้านมาตรฐานการผลิต น่าจะตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยต่อการบริโภคได้อย่างชัดเจนว่า ไก่ไทย ปลอดภัยไร้ฮอร์โมน.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=339&contentID=30772
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า