เมื่อวันที่ 28 มกราคม 52
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยความคืบหน้าโครงการนำร่องการผลิตส้มโอปลอดโรคแคงเคอร์ เพื่อส่งออกไปประเทศเนเธอร์แลนด์ ว่า โครงการฯประสบความสำเร็จอย่างดี สามารถพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอ จำนวน 528 ราย รวมพื้นที่กว่า 2,952 ไร่ ในพื้นที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ทำให้ส่งออกส้มโอปลอดโรคแคงเคอร์และปราศจากอาการแผลโรคจุดดำไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ โดยผู้นำเข้าให้ความเชื่อมั่นในระบบการผลิต ขณะที่ผู้บริโภคให้การตอบรับดีมาก ปัจจุบันสามารถขยายตลาดส่งออกส้มโอเวียงแก่นไปยังหลายประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ได้แล้ว อาทิ สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมนี และฝรั่งเศส เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ปี 2552 นี้ กรมวิชาการเกษตรได้มีแผนเร่งขยายผลต่อยอดโครงการฯ โดยมอบหมายให้สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืชและศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย เร่งพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตส้มโอเวียงแก่นทั้งระบบ ตั้งแต่การจัดการแหล่งผลิตตามระบบเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) การตรวจเพื่อออกใบรับรองส่งออก การควบคุมกระบวนการหลังการเก็บเกี่ยว ณ โรงคัดบรรจุ (Packing House) ซึ่งต้องจุ่มผลส้มโอด้วยสาร Sodium Hypochlorite หรือ
สารละลายคลอรีน 200 ppm ความเป็นกรด-ด่าง 6.0-7.5 เป็นเวลา 2 นาที เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศผู้นำเข้า ซึ่งจะช่วยผลักดันการส่งออกส้มโอได้เพิ่มมากขึ้น และช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกส้มโออย่างน้อย 5,000-10,000 บาท/ไร่ และนำรายได้เข้าประเทศจากการส่งออกส้มโอเวียงแก่น ปีละไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 28 มกราคม 2552
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=189160&NewsType=1&Template=1