ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในนา-ผลผลิตต่อไร่เพิ่ม
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 52
ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในนา-ผลผลิตต่อไร่เพิ่ม
ที่ผ่านมาเกษตรกรโดยทั่วไปคงตระหนักดีถึงโทษของการใช้สารเคมีมากเกินไป จนทำให้สภาพผืนดินเสื่อมโทรมเร็ว ทำการเกษตรไม่ได้ผลเท่าที่ควร อีกทั้งยังทำให้ต้นทุนในการผลิตเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ด้วยสาเหตุดังกล่าวข้างต้น ทำให้ นายทิพย์ พุฒเหมือน อายุ 59 ปี หมอดินอาสาประจำตำบล จ.ชัยนาท หันมาผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการทำการเกษตรมากขึ้น โดยเฉพาะในนาข้าว ถึงแม้จะยังลดการใช้สารเคมีไม่ได้ 100% แต่ก็สามารถลดลงได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
นายทิพย์ เล่าให้ฟังว่า คลุกคลีกับการเกษตรมาตั้งแต่เด็ก ด้วยวิธีครูพักลักจำมาจากการทำการเกษตรของครอบครัว แต่ก็ไม่ได้ทำอย่างมีหลักการอะไร ทำตามความเข้าใจของตัวเองผสมผสานกับภูมิปัญญาที่มีอยู่เท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นการลองผิดลองถูกมาโดยตลอด แต่หลังจากได้มาเป็นหมอดินอาสาของกรมพัฒนาที่ดิน ได้ไปศึกษาดูงานในที่ต่าง ๆ มากมาย แล้วนำความรู้ที่ได้นั้นมาประยุกต์ใช้กับพื้นที่ของตนเอง ทำให้สามารถจัดสรรพื้นที่และทำการเกษตรอย่างถูกวิธีมากขึ้น
จากที่เคยทำนาข้าวแบบใช้สารเคมีเพียงอย่างเดียวนั้น ช่วงแรก ๆ ก็ให้ผลผลิตดี แต่เมื่อใช้เป็นระยะเวลานาน ผลผลิตที่ได้กลับน้อยลง สภาพดินที่เคยอุดมสมบูรณ์ก็ค่อย ๆ เสื่อมโทรมลงด้วย แต่หลังจากได้ มาใช้โดโลไมท์ 200-250 กิโลกรัมต่อไร่ ในนาข้าว ทำให้ปุ๋ยเคมีมีประสิทธิภาพ มากขึ้น อีกทั้งยังสามารถลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ 20-30 เปอร์เซ็นต์และ ปลูกปอเทืองหลังฤดูการเก็บเกี่ยว ทำให้โครงสร้างดินร่วนซุยขึ้น ลดการใช้ปุ๋ยยูเรียลง เพิ่มผลผลิตข้าวจากเดิม 800 ถังต่อไร่ เป็น 1,000 ถังต่อไร่ นอกจากนั้น ยังหมักฟางและตอซังร่วมกับน้ำหมัก ซุปเปอร์ พด.2 จำนวน 5 ลิตรต่อไร่ โดยปล่อยเข้านาพร้อมน้ำชลประทาน หมักทิ้งไว้ประมาณ 3-5 วัน ทำให้ฟางและตอซังย่อยสลายเร็วขึ้น ตลอดจนดินมีโครงสร้างดีผลิตข้าวได้มาก
นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์เรียนรู้การพัฒนาที่ดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงที่สำคัญของ อ.สรรค บุรี เป็นจุดเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่าง ๆ ทั้งในนาข้าว พืชผัก ไม้ผล บ่อปลา และร่องสวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ผลิตภัณฑ์พัฒนาที่ดินและภูมิปัญญาท้องถิ่น
จากความสำเร็จดังกล่าวของ นายทิพย์ พุฒเหมือน ส่งผลให้ได้รับคัดเลือกให้เป็นหมอดินอาสาดีเด่นชนะเลิศสำนักงานพัฒนาที่ดิน เขต 1 ประจำปี 2552 ของกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งเป็นแบบอย่างในการทำการเกษตรที่ประสบความสำเร็จให้กับเกษตรกรทั่วไป ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
หากเกษตรกรรายใดอยากประสบความสำเร็จดังเช่นนายทิพย์ หรือต้องการความรู้และข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อ นายทิพย์ ได้โดยตรงที่ 70/1 หมู่ที่ 5 บ้านไทย ต.เที่ยงแท้ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท หรือที่เบอร์โทรศัพท์ 08-5051-9262 และ 0-5648-1332.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=344&contentID=30961
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า