เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 52
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการการพัฒนาการผลิต การตลาดเกษตรอินทรีย์ว่า ที่ประชุมมีมติจะเสนอขอใช้งบประมาณจากโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข็มแข็ง เพื่อดำเนินโครงการนำร่องการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ จำนวน 2 โครงการสำคัญ คือ โครงการบูรณาการการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ในทุ่งกุลาร้องไห้เพื่อการส่งออก และยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับให้กับสินค้าเกษตรอินทรีย์ 3 พืชหลัก ได้แก่ ข้าว ผัก และพืชสมุนไพรอินทรีย์ เนื่องจากทั้ง 2 โครงการดังกล่าวยังขาดงบประมาณในการดำเนินการ ซึ่งจะได้นำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ซึ่งมีนายสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับการบูรณาการแผนปฏิบัติการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2553-2554 ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะทำงาน 1 ชุด เพื่อขับเคลื่อนการบูรณาการแผนปฏิบัติการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้เกิดผลในเชิงรูปธรรม และกำหนดพื้นที่เป้าหมายดำเนินการที่ชัดเจน พร้อมมอบหมายให้ไปพิจารณาปรับแผนการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ฉบับที่ 1 พ.ศ.2551-2554 เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับงบประมาณไม่สอดคล้องกับแผนงาน
ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ รองประธานอนุกรรมการฯ กล่าวว่า ภายใต้การบูรณาการการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติครั้งนี้ น่าจะทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ โดยจะมีการจัดทำ Organics Mapping เพื่อการตลาดทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ เพื่อรวบรวมฐานข้อมูลของทั้งพื้นที่และรายชนิดสินค้าเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดที่ชัดเจน สามารถการประเมินผลความคืบหน้าของแผนงานได้สำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 8 ธันวาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=190537