กำจัดแมลงวันทองด้วยสมุนไพร
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 52
กำจัดแมลงวันทองด้วยสมุนไพร
เมื่ออังคารที่แล้วกล่าวถึง
การกำจัดแมลงวันทองด้วยวิธีการใช้สารเคมีเป็นส่วนประกอบ สำหรับส่วนการใช้สมุนไพรกำจัดแมลงวันทองนั้นก็มีนักวิชาการศึกษาวิจัยกันมากมาย เช่น การศึกษาวิจัยเรื่อง “การวิจัยเพื่อค้นหาพืชของไทยที่มีคุณสมบัติในการป้องกันและกำจัดแมลงวันทอง” โดย สุธรรม อารีกุล ภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประเทืองศรี สินชัยศรี กองเกษตรเคมี กรมวิชาการเกษตรและ แสน ติกวัฒนานนท์ คณะเกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเยี่ยม จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
แต่ที่จะเล่าให้ฟังในวันนี้เป็นเรื่องที่ทำโดยเกษตรกรโดยตรงที่ทำแล้วนำไปใช้ได้ผลดี เพราะคนที่ทำก็เป็นเกษตรกรดีเด่น จังหวัดชัยนาท คือ นายเสรี กล่ำน้อย (ข้อมูลโดยอัครินทร์ ท้วมขำ และ นิทัศน์ กาญจนภา สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จ.ชัยนาท) โดยนายเสรี ได้นำข่าแก่และข่าดง มาบดให้ละเอียดก่อนจะนำไปบดกับน้ำสะอาด โดยการนำข่าบดไปใส่ในภาชนะแล้วเอาฝ่ามือกดลงไป แล้วเติมน้ำให้ท่วมหลังมือ จากนั้นก็หมักไว้ 1 คืน พอตอนเช้าให้นำผ้าขาวบางมากรองเอาแต่น้ำข่าหมัก ต้องระวังอย่าให้มีเศษผงข่าไหลปนมากับน้ำข่าหมัก แล้วนำน้ำข่าหมักไปผสมกับน้ำสะอาดด้วยอัตรา 1 : 10 (น้ำข่าหมัก 1 ลิตร ต่อน้ำสะอาด 10 ลิตร)
เมื่อผสมน้ำข่าหมักกับน้ำสะอาดตามสูตรแล้ว นายเสรี มีวิธีการนำไปใช้กับต้นชมพู่ทับทิมจันทร์ที่ปลูกอยู่ 10 ต้น ดังนี้ ฉีดพ่นผลที่ติดหลังผสมเกสรแล้วมีขนาดเท่าหัวไม้ขีด โดยพ่น 3 วัน/ครั้ง ต่อมาเมื่อผลโตเท่าหัวแม่มือก็ฉีดพ่น 7-10 วัน/ครั้ง
ผลคือสามารถป้องกันการทำลายของแมลงวันทองได้ถึง 70% แต่วิธีนี้มีข้อเสียคือ น้ำหมักข่าเก็บไว้ได้แค่ 2 วันเท่านั้น จากนั้นกลิ่นเริ่มเหม็น ใช้การไม่ได้
ฉะนั้นจึงหาวิธีที่จะทำให้อยู่ได้นาน ๆ กว่านั้น นายเสรีจึงนำเอทิลแอลกอฮอล์ 95% มาหมักแทนน้ำ วิธีนี้ทำให้สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปี และมีประสิทธิภาพขับไล่แมลงวันทองได้ถึง 90%
โดยทำดังนี้ นำข่าแก่มาหั่น สับ บด ให้ละเอียด 3 ส่วน เอทิลแอลกอฮอล์ 95% อัตรา 1 ส่วน น้ำสะอาด 1 ส่วน และสบู่เหลว ส่วน (ตัวอย่าง ข่าบดหรือสับ หรือหั่น 30 กก. เอทิลแอลกอฮอล์ 95% ปริมาณ 10 ลิตร น้ำสะอาด 10 ลิตร สบู่เหลว 2 ลิตร (สบู่เหลวใช้แทนสารจับใบและช่วยให้สารจับสมุนไพรที่ผิวของผลไม้และใบได้ทนทานไม่ถูกชะล้างเมื่อฝนตก)
นำทั้งหมดมาผสมกันแล้วหมักไว้ในภาชนะที่มีฝาปิด-เปิดได้ หมักไว้ 7 วัน ในห้องที่มีอากาศถ่ายเท ระหว่างนั้นก็คอยเปิดฝาระบายก๊าซที่เกิดขึ้น แล้วปิดฝา หลัง 7 วันก็นำไปใช้ได้
วิธีใช้ของนายเสรี ดังนี้คือ นำน้ำหมัก 50-70 ซีซี (ประมาณ 3-5 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร (1 ปี๊บ) ฉีดพ่นชมพู่ติดผลใหม่ทุก 7-10 วันต่อครั้ง กระทั่งพ้นระยะเข้าทำลายของแมลงวันทอง
นอกจากเหง้าข่าแก่ มีพืชชนิดอื่น ๆอีกหลายชนิดที่สามารถขับไล่แมลงวันทอง ได้แก่ ใบสะเดา ใบแก่คำแสด ใบแก่มะกรูด หัวแก่พระตะบะ หัวแก่เอ็นหลวง เมล็ดละหุ่ง เมล็ดแตงไทย ต้นเสน่ห์จันทร์ขาว ต้นหญ้างวงช้าง
ลองนำวิธีของนายเสรี กล่ำน้อย เกษตรกรดีเด่นของจังหวัดชัยนาทไปปฏิบัติ หรือนำไปประยุกต์ใช้ก็น่าจะได้ผลดีแก่เกษตรกรที่ต้องการป้องกันและกำจัดแมลงวันทอง หรือแมลงวันผลไม้ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลไม้หลายชนิดเสียหาย
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 8 ธันวาคม 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=346&contentID=36106
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า