เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 52
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดตามสถานการณ์ และช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยจากการระบาดของเพลี้ยในนาข้าวอย่างใกล้ชิด รวมถึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัด อาทิ กรมการข้าว กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาดังกล่าวทั้งในช่วงที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดและสถานการณ์ ปกติตลอดทั้งปี เพื่อดำเนินการทั้งในส่วนของการตัดวงจรเพลี้ยกระโดดด้วยวิธีการต่างๆ ป้องกันการแพร่ระบาดซ้ำในพื้นที่เดิมแถบภาคกลาง ซึ่งเคยได้รับความเสียหายรวมประมาณ 1 แสนไร่ อาทิ นครสวรรค์ สุพรรณบุรี อ่างทอง ด้วยการใช้ธรรมชาติฆ่าธรรมชาติด้วยตัวห้ำตัวเบียน การให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในการพักดินด้วยการหันไปปลูกพืชหมุนเวียนชนิดอื่น สลับกับข้าวอย่างพืชตระกูลถั่ว เพื่อสลัดดินซึ่งจะตัดวงจรของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้ นอกจากนั้น ยังเร่งรณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่อื่นๆ ด้วยวิธีการข้างต้นเช่นเดียวกันด้วย
"สำหรับการประกาศพื้นที่แพร่ระบาด อาทิ จังหวัดพิจิตร ให้เป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัตินั้น ก็เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐเข้าทำการช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วตามระเบียบของกระทรวงการคลัง โดยใช้เงินทดรองราชการในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัด วงเงิน 30 ล้านบาท และหากนอกเหนือไปจากนั้นยังอยู่ในอำนาจของปลัดกระทรวงที่จะพิจารณาอนุมัติ ได้อีก 90 ล้านบาท โดยเกณฑ์การช่วยเหลือจะใช้เกณฑ์เดียวกันกับกรณีน้ำท่วมนาข้าว คือไร่ละ 606 บาท แต่อย่างไร ก็ดีจะเร่งบูรณาการร่วมกันกับทุกหน่วยงานเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นมากไปกว่านี้ โดยกระทรวงเกษตรฯ จะเข้าไปดูแลสถานการณ์และพยายามตัดวงจรเพลี้ยกระโดดโดยเร็ว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาวนาและสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยที่กำลังไปได้ด้วยดี เนื่องจากขณะนี้ราคาข้าวกำลังขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง" นายธีระ กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 9 ธันวาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=190643