เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 52
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบ แผนการจัดทำมาตรฐานสินค้าเกษตรปี 2553 28 เรื่อง ได้แก่ ฝรั่ง ไข่ไก่ รังไหม ปูนิ่ม น้ำนมดิบ ปศุสัตว์อินทรีย์ สวัสดิภาพสัตว์ การชันสูตรโรคไวรัสเคเอชวี จีเอพีสำหรับปทุมมา หม่อน ถั่งลิสง จีเอพีถั่วลิสง อ้อย ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเมล็ดแห้ง มันสำปะหลัง แนวทางการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร การผลิตและเก็บรักษาเมล็ดกาแฟ ฟาร์มไก่ไข่ สถานที่ฟักไข่สัตว์ปีก คอมพาร์ทเมนต์สำหรับปศุสัตว์ ฟาร์มปลานิล โรงเพาะฟักและอนุบาลกุ้งทะเล โรงเพาะฟักสัตว์น้ำจืด การเลี้ยงปลาสลิดอินทรีย์ หลักการปฏิบัติที่ดีสำหรับโรงสีข้าว โรงคัดบรรจุผักและผลไม้สด และ สถานประกอบการซัลเฟอร์ไดออกไซด์
นายธีระ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการจัดทำโครงการนำร่องเพื่อรณรงค์ผลักดันการผลิตอาหาร โดยใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Green food) ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับ จ.สมุทรสาคร และ นครปฐม เพื่อให้ลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในการผลิตสินค้าเกษตร โดยเน้นสินค้าประมงใน จ.สมุทรสาคร และสุกรใน จ.นครปฐม โดยวางแนวทางการดำเนินการโดยใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายเพื่อดับกลิ่น รวมทั้งให้ความรู้ในการนำจุลินทรีย์ไปขยายผล ซึ่งในส่วนของ จ.นครปฐม จะส่งเสริมการนำมูลสุกรไปทำก๊าซชีวภาพเพื่อใช้เป็นพลังงานในฟาร์มเพิ่มเติมอีกด้วย และหากดำเนินการเสร็จสิ้นจะมีการขยายผลไปในจังหวัดอื่นๆ
"คุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรเป็นเรื่องที่ทวีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเพื่อการส่งออกหรือในประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันดำเนินการ ปัจจุบันประเทศไทยมีมาตรฐานสินค้าเกษตรที่ประกาศใช้แล้วรวม 145 เรื่อง นับว่า ประเทศไทยมีมาตรฐานที่เทียบเท่าสากลเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ผลิต ผู้บริโภคและผู้ที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อาหารมากขึ้น" นายธีระ กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 11 ธันวาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=190938