กรมหมอดินโชว์วิธีปลูกข้าวอินทรีย์ ด้วยปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตร พด.
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 52
กรมหมอดินโชว์วิธีปลูกข้าวอินทรีย์ ด้วยปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตร พด.
ไทยเป็นประเทศที่มีการส่งออกข้าวเป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่การปลูกข้าวของเกษตรกรไทยยังคงต้องพึ่งพาปัจจัยการใช้ปุ๋ยเคมีเกือบจะ 100% ในการเพิ่มผลผลิตข้าว ในขณะที่ราคาปุ๋ยเคมีขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามภาวะน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดขึ้นเมื่อไร ส่งผลถึงต้นทุนการผลิตของเกษตรกรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น สิ่งที่จะช่วยให้เกษตรกรหลุดพ้นจากภาระต้นทุนสูงคือการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตจากพึ่งพาปุ๋ยเคมีทั้งหมด มาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่สามารถผลิตได้เองทดแทน
ปัจจุบันกรมพัฒนาที่ดินได้คิดค้นนวัตกรรมในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงออกมาหลายสูตรที่สามารถใช้วัสดุเหลือใช้จากภาคเกษตรที่หาได้ง่าย แถมต้นทุนการผลิตก็ต่ำแต่มีประสิทธิภาพสูงในการปรับปรุงคุณสมบัติทางดิน ฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ และไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้ ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกษตรกรสามารถทำได้ด้วยตนเอง เพราะกรมฯ มีสูตรการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงที่สามารถประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด และช่วงการเจริญเติบโตของพืช ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต
นายบัณฑิต ตันศิริ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ในช่วงที่ปุ๋ยเคมีปรับราคา เกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นในขณะที่ราคาจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรไม่ได้ปรับตามขึ้นไปสักเท่าไรนั้น ทางเลือกทางรอดที่เกษตรกรจะพึงปฏิบัติได้คือการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส โดยการหันกลับมาใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิต ด้วยการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ที่ใช้วัสดุทางการเกษตร เศษพืช เศษอาหาร ที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์
ปีที่ผ่านมากรมพัฒนาที่ดินได้คิดค้นวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง เป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้มาจากการนำวัสดุอินทรีย์และอนินทรีย์ธรรมชาติทางการเกษตร ที่มีธาตุอาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัสสูง มาผ่านกระบวนการหมักจนสลายตัวสมบูรณ์ ซึ่งสามารถใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงตรงตามความต้องการของพืชแต่ละชนิด โดยผ่านการทดสอบคุณสมบัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรใช้กับพืชชนิดต่างๆ มาระยะหนึ่งแล้ว
ขณะที่ในปี 2552 กรมพัฒนาที่ดินจะสานต่อโครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงในพื้นที่นาข้าวบ้าง เพื่อให้เป็นแปลงข้าวอินทรีย์ตัวอย่างสำหรับให้เกษตรกรเข้ามาศึกษาเรียนรู้วิธีการปลูกข้าวอินทรีย์ โดยตั้งเป้าดำเนินการนำร่องในพื้นที่ปลูกข้าวของกลุ่มเกษตรกรที่กรมฯ จัดตั้งตามโครงการส่งเสริมการใช้สารอินทรีย์ทดแทนสารเคมีทางการเกษตร/เกษตรอินทรีย์ ในพื้นที่ตัวแทนปลูกข้าวของประเทศรวม 10 จังหวัด เนื้อที่ทั้งสิ้น 1,000 ไร่ แบ่งเป็นเขตพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา พื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ ยโสธร พื้นที่ภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดน่าน ภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช และพัทลุง เนื้อที่ดำเนินการจังหวัดละ 100 ไร่
โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงเดือนธันวาคม 2552 ซึ่งรูปแบบการดำเนินการเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย เก็บตัวอย่างดินเพื่อวิเคราะห์หาธาตุอาหาร ความอุดมสมบูรณ์ของดิน จากนั้นประชุมทำความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการเพื่อร่วมกันดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของโครงการ หลังจากที่ได้ค่าวิเคราะห์ดินแล้วจะเข้าสู่กระบวนการวางแผนการผลิตของแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสม รวมทั้งกำหนดสูตรปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง
เมื่อได้สูตรปุ๋ยที่เหมาะสมของแต่ละพื้นที่แล้ว ก็จะทำแปลงสาธิตการปลูกข้าวอินทรีย์โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตรกรมพัฒนาที่ดินทันที ควบคู่กับจัดอบรมกระบวนการผลิตข้าวอินทรีย์และสาธิตการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ให้กับเกษตรกร นอกจากนี้จะเปิดโอกาสให้กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ หรือใกล้เคียงมาศึกษาดูแปลงสาธิตดังกล่าว เพื่อให้ความรู้แก่เกษตรกรได้นำไปพัฒนาการปลูกข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ของตนเองต่อไป
"ในการดำเนินการครั้งนี้กรมฯ มีความมุ่งหวังที่จะสร้างเครือข่ายการทำเกษตรอินทรีย์ในชุมชนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 จังหวัด 1 แปลงข้าวอินทรีย์ในพื้นที่เป้าหมาย 10 จังหวัดนำร่อง รวมทั้งได้ถ่ายทอดความรู้เรื่องการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตรของกรมฯ ที่เกษตรกรสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ด้วยวิธีง่ายๆ เป็นการประหยัดต้นทุนการผลิต ที่สำคัญยังปลอดภัยต่อเกษตรกร ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม" อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวทิ้งท้าย
หากเกษตรกรท่านใดที่กำลังมองหาวิธีลดต้นทุนการปลูกข้าว ขอแนะนำให้ลองมาศึกษาวิธีปลูกข้าวอินทรีย์ได้จากกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานพัฒนาที่ดินเขตทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด หรือหมอดินอาสาใกล้บ้าน
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=147486
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า