เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 52
งานวันเกษตรแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นทุกปี สลับกันไประหว่างจัดในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ปีที่แล้วจำได้ว่าจัดที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีนี้จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน (มาถึงวันนี้ งานก็จบเรียบร้อยไปแล้ว) แม้ว่างานเกษตรแห่งชาติไม่ได้จัดที่ ม.เกษตรศาสตร์ทุกปี แต่ที่นี่เขาก็มีงานเกษตรทุกปี เรียกว่า “งานเกษตรแฟร์” หากเมื่อใดที่งานเกษตรแห่งชาติจัดขึ้นที่นี่พร้อมงานเกษตรแฟร์ก็แสดงว่า งานจะมีความหลากหลายมากขึ้น มีการแสดงนิทรรศการความรู้ทางวิชาการจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชนมากขึ้น ปีนี้ก็เช่นกัน ใครที่ไปดูในส่วนนิทรรศการคงได้เก็บเกี่ยวความรู้มาด้วยมากมาย หากใครไม่ได้ไปก็จะเอามาฝาก...เช่น เรื่อง “เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพการขยายพันธุ์มะนาวเชิงการค้า” โดยคณะผู้วิจัย ได้แก่ สามารถ เศรษฐวิทยา, กาญจน์ จันทร์ลอย, มณฑา วงศ์มณีโรจน์ และ รวี เสรฐภักดี ศูนย์วิจัยและพัฒนาไม้ผลเขตร้อน สถาบันวิจัยและพัฒนากำแพงแสน ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน นครปฐม ขออนุญาตนำข้อมูลมาเผยแพร่สู่ผู้สนใจโดยเฉพาะเกษตรกร ดังต่อไปนี้....
เขาบอกว่า ราคามะนาวจะสูงขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ช่วงนี้จึงมีการผลิตมะนาวนอกฤดู ซึ่งการเตรียมกิ่งพันธุ์มะนาวให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรต้องมีการวางแผนการผลิตกิ่งพันธุ์ให้ได้ต้นมะนาวที่สมบูรณ์สามารถให้ผลผลิตได้ดีตามความต้องการของตลาด ฉะนั้น การเพิ่มทักษะการขยายพันธุ์มะนาวให้เกษตรกรตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนการผลิต เทคนิคและวิธีการผลิต จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เกษตรกรต้องรู้เพื่อจะได้นำไปสร้างอาชีพต่อไป
สำหรับความต้องการกิ่งพันธุ์มะนาว จะมีมากตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม หลังจากนั้นแล้วความต้องการกิ่งพันธุ์จะลดลง อย่างไรก็ตามเกษตรกรสามารถนำกิ่งพันธุ์มะนาวที่เหลือจำหน่ายมาดูแลรักษา กิ่งพันธุ์จะขยายใหญ่ขึ้นนั่นก็หมายความว่า มันเพิ่มมูลค่าขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
วิธีการคือการตัดชำกิ่งมะนาว การตัดชำ คือ การตัดส่วนของกิ่งพันธุ์มะนาวที่มีสภาพต้นที่สมบูรณ์ แล้วนำมาชำไว้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดรากและยอดพัฒนาเป็นพืชต้นใหม่ โดยที่ต้นใหม่มีลักษณะเหมือนต้นแม่ทุกประการและจะช่วยร่นระยะเวลาในการออกดอกติดผลเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับการเพาะเมล็ด มะนาวที่ปลูกด้วยกิ่งปักชำระยะเวลา 2-3 ปีก็จะให้ผลผลิต ส่วนการเพาะด้วยเมล็ดใช้เวลามากกว่านั้น
การตัดชำกิ่งอ่อน คือ การตัดกิ่งที่เพิ่งแตกออกมาใหม่ มีลักษณะอ่อนและอวบน้ำ ความสำเร็จในการขยายพันธุ์โดยการตัดชำกิ่งอ่อนขึ้นอยู่กับอาหารและฮอร์โมนของพืช กล่าวคือ อาหารที่มีอยู่ในกิ่งอ่อนหรือยอดของพืชไม่ใช่ปัจจัยอันสำคัญ เพราะอาหารในส่วนของพืชดังกล่าวมีไม่มากพอ ดังนั้นอาหารที่จะนำมาสร้างรากจะต้องได้จากการสังเคราะห์แสง ด้วยเหตุนี้การตัดชำกิ่งอ่อนจะต้องมีใบติด นอกจากนั้นปัจจัยอื่นๆ คือ อุณหภูมิ ความชื้น และแสงที่พอเหมาะก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญเช่นกัน
การตัดชำกิ่งกึ่งอ่อนกึ่งแก่ กิ่งชนิดนี้เป็นกิ่งที่มีการเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว และมีเนื้อไม้เริ่มแข็งเหมาะแก่การผลิตมะนาวเชิงการค้า สำหรับกิ่งที่ใช้ในการตัดชำ ควรลิดใบแก่หรือใบล่างออกเหลือไว้เฉพาะใบที่เจริญเต็มที่และใบที่อยู่ด้านยอดประมาณ 4-5 ใบ
วิธีตัดชำกิ่ง ปฏิบัติดังนี้
1.เมื่อตัดกิ่งพันธุ์มะนาวมาแล้วควรพ่นน้ำให้แก่กิ่งพันธุ์มะนาวเป็นระยะ เพื่อช่วยลดการคายน้ำ
2.เตรียมกิ่งขนาดยาวโดยทั่วไปประมาณ 6-9 นิ้ว ขนาดของกิ่งประมาณ 1 นิ้ว โดยรอยตัดควรอยู่บนข้อและใกล้กับข้อให้มากที่สุด
3. กิ่งจะต้องมีข้อจำนวนประมาณ 3-5 ข้อ และมีใบอยู่ 4-6 ใบ
4.โคนกิ่งควรตัดเป็นรูปปากฉลามหรือฝานบวบ จะมีรอยแผลช้ำบริเวณรอยตัดให้ใช้คัตเตอร์ตัดรอยช้ำออกซ้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการออกราก
5.ใช้คัตเตอร์กรีดบริเวณโคนกิ่งในแนวตั้งความยาวประมาณ 5 เซนติเมตร 3-4 รอย
6.หลังจากนั้นนำกิ่งมะนาวแช่ลงในน้ำที่ผสมสารป้องกันเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย เพื่อไม่ให้เชื้อราและเชื้อแบคทีเรียเข้าทางรอยแผล
7.นำกิ่งพันธุ์จุ่มลงในสารเร่งการเกิดรากจำพวก NAA และ IBA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการออกรากของกิ่งพันธุ์มะนาว
8.หลังจากเตรียมกิ่งพันธุ์มะนาวเสร็จแล้ว ใช้ไม้ที่มีขนาดเล็กหรือเท่ากับขนาดของกิ่งปักชำ แทงลงในวัสดุปลูกก่อนนำกิ่งลงปักชำ เพื่อป้องกันการเกิดรอยช้ำบริเวณแผล
9.ฝังกิ่งลึก 1/2 ส่วน ของความยาวกิ่ง และที่สำคัญคือต้องกดบริเวณโคนกิ่งให้แน่น
10. ใช้วัสดุพรางแสง ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และต้องบังกระบะปักชำไม่ให้มีลมมาปะทะเพื่อไม่ให้กิ่งปักชำขยับและลดการคายน้ำของกิ่งพันธุ์มะนาว
11.สังเกตดูว่าวัสดุเพาะชำหรือน้ำที่จับบริเวณใบแห้งเกินไปหรือไม่ ถ้าแห้งเกินไปควรพ่นน้ำให้ถี่ขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=190525&NewsType=1&Template=1